แถลงการณ์ คปส.-FACT กรณีผู้ใช้เว็บบอร์ด 2 รายถูกจับขังเงียบ

September 11, 2007

แถลงการณ์
กรณีผู้ถูกจับกุมภายใต้ พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

จากกรณีหนังสือพิมพ์ไฟแนนซ์เชียลไทมส์ ฉบับสุดสัปดาห์ วันที่ 1-2 กันยายน พ.ศ. 2550 รายงานข่าว ประเทศไทยเลิกแบนเว็บไซต์ยูทิวบ์ โดยความตอนหนึ่งอ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่ระบุว่าเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ รัฐไทยได้ใช้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จับกุมคนไทย 2 คน เนื่องจากแสดงความเห็นเข้าข่ายหมิ่นพระมหากษัตริย์ในห้องสนทนาบนอินเทอร์เน็ต ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวและทางรัฐบาลไทยก็ไม่ได้ให้คำตอบอย่างเป็นทางการ หนังสือพิมพ์ประชาไท (www.prachatai.com) ได้รายงานว่าพบการจับกุมจริงโดยมีหนึ่งคนอยู่ระหว่างการถูกคุมขังและอีกหนึ่งคนได้รับการประกันตัวแล้ว ในขณะเดียวกันองค์กรสื่อและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายแห่งได้ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อเรื่องนี้อย่างมาก

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส) และ เครือข่ายเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์ประเทศไทย (FACT) เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน จำเป็นที่รัฐบาลต้องออกมาให้ข้อเท็จจริงและแสดงจุดยืนในกรณีนี้ต่อสาธารณชนไทยและประชาคมโลก โดยเฉพาะการต้องมีหลักประกันว่า ผู้ถูกดำเนินคดีจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ต้องได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม และได้รับการคุ้มครองสิทธิโดยไม่ถูกข่มขู่คุกคาม หรือ ถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 14 วรรค 2 ที่ว่า “การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”

กฎหมายนี้เป็นกฏหมายฉบับแรกที่ผ่านการพิจารณาของ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเต็มไปด้วยข้อกังวลหลายประการ เพราะสะท้อนเจตนาในการควบคุมสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การแสดงออกทางความคิด และความรู้สึกของประชาชน อีกทั้งมาตรการในการใช้กฎหมาย รวมถึงกฎกระทรวงและประกาศระเบียบต่างๆ ยังขาดความชัดเจน มีความคลุมเครือ เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้กฎหมายไปในทางที่มิชอบได้

ดังนั้น รัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งจำเป็นต้องทบทวน กฎหมายดังกล่าวในอนาคต อีกทั้งประชาชนต้องแสดงพลังยับยั้ง สนช. ในการผลักดันร่างกฎหมายอื่นๆ ที่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น พระราชบัญญัติความมั่งคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ…. และ พระราชบัญญัติปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ….. เป็นต้น

ทั้งนี้ คปส และ FACT ขอให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในพื้นที่ไซเบอร์เฝ้าระวังความปลอดภัยในชุมชนออนไลน์ เพราะหลังพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีผลบังคับใช้ (19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550) เพียง 40 วัน ข่าวการจับกุมกลุ่มคนที่แสดงออกทางการเมืองในชุมชนออนไลน์ (Cyber-dissidents) อย่างเงียบงันได้เกิดขึ้นแล้วเป็นครั้งแรกและคาดว่าจะมีรายต่อไป

คปส และ FACT ขอเรียกร้องให้ องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาคมนานาชาติติดตามผลกระทบต่อเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญ อีกประการคือสื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นสื่อสากล ที่ปราศจากเส้นแบ่งเขตแดน ดังนั้นรัฐไทยจำเป็นต้องพลวัตการยอมรับการใช้สิทธิเสรีภาพของพลเมืองในสื่ออินเทอร์เน็ต (Cyber citizens) ตามมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส)
เครือข่ายเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์ประเทศไทย (FACT)
11 กันยายน 2550

หมายเหตุ: คปส และ FACT เตรียมทำจดหมายเปิดผนึก ยื่นถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีอย่างเป็นทางการ เพื่อถามถึงกรณีดังกล่าว คาดว่าสามารถยื่นหนังสือได้ภายในต้นสัปดาห์หน้า

เสรีภาพการสื่อสาร ไม่ใช่อาชญากรรม
Freedom of Expression is not a crime!

Leave a comment